ป้าย shelf talker ที่ดี วางตำแหน่งตรงไหนถึงจะเวิร์ก?
หลายคนรู้ว่า ป้าย shelf talker คือป้ายขนาดเล็กที่ติดอยู่ตามชั้นวางสินค้าเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้า แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามคือ ตำแหน่งการติดตั้ง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของป้าย ถ้าติดผิดจุด แม้ข้อความจะดี ดีไซน์จะสวย งานพิมพ์จะเป๊ะ ป้ายก็อาจไม่ถูกมองเห็นเลย
ในบทความนี้เราจะพาคุณสำรวจ 4 จุดวาง shelf talker ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกค้า พร้อมเทคนิคการจัดวางป้ายให้ได้ผลจริง เพื่อเปลี่ยนป้ายเล็ก ๆ ให้กลายเป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขายได้แบบมืออาชีพ อ่านต่อเพิ่มเติมที่นี่
4 จุดสำคัญในการติดป้าย shelf talker
1. วางในระดับสายตา เห็นก่อน ตัดสินใจก่อน
หนึ่งในจุดที่เวิร์กที่สุดของ ป้าย shelf talker คือตำแหน่งที่ระดับสายตา เพราะลูกค้าจะเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อนโดยอัตโนมัติ ชั้นวางสินค้าที่สูงประมาณ 140–160 ซม. จึงกลายเป็นพื้นที่ทองสำหรับป้ายโปรโมชันหรือสินค้าที่อยากดันยอด
การวางป้ายให้เยื้องออกมาด้านหน้าเล็กน้อย จะช่วยให้ข้อความบนป้ายถูกมองเห็นก่อนฉลากสินค้า และหากใช้สีที่ตัดกับพื้นหลัง ตัวอักษรใหญ่และชัด ก็จะยิ่งดึงดูดสายตาได้มากขึ้น
อย่าลืมปรับระดับให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น สินค้าเด็กควรติด shelf talker ให้อยู่ต่ำกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับมุมมองของลูกค้าตัวจริง
2. เยื้องนิด ยื่นหน่อย ดึงดูดมากขึ้น
ต่อให้วาง ป้าย shelf talker ในระดับสายตา แต่ถ้าติดแบนไปกับขอบชั้น ก็อาจกลืนไปกับสินค้าอื่น เทคนิคง่าย ๆ ที่ได้ผลคือ “ยื่นป้ายออกมานิดเดียว” หรือใช้รูปแบบที่เรียกว่า winged placement ให้ป้ายยื่นออกจากแนวชั้น 1–2 ซม.
shelf talker ที่ยื่นออกมาจะมีมิติเห็นได้จากหลายมุม โดยเฉพาะร้านที่มีพื้นที่แน่น การยื่นเพียงเล็กน้อยช่วยให้ป้ายไม่ถูกกลืนหายไปจากสายตา อ่านต่อเพิ่มเติมที่นี่
ใช้วัสดุที่แข็งแรงอย่าง PET หรือกระดาษเคลือบ เพื่อให้ป้ายไม่ย้วยหรือบิดตัว และหากไดคัตหรือพับให้องศาพอดี จะยิ่งช่วยให้ป้ายโดดเด่นตลอดทั้งวัน
3. ซ้ายหรือขวา? เลือกให้เข้ากับจังหวะมอง
แม้จะดูเป็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่การวาง shelf talker ฝั่งซ้ายหรือขวาก็มีผลต่อโอกาสการมองเห็น โดยทั่วไปลูกค้ามักมองจากซ้ายไปขวาเหมือนเวลาอ่านหนังสือ ป้ายที่อยู่ทางขวาจึงมักถูกเห็นก่อน
แต่ถ้าเคาน์เตอร์หรือชั้นวางวางอยู่ริมขวา การติดป้ายฝั่งซ้ายอาจเวิร์กกว่า เทคนิคที่แนะนำคือ ทดลองติดป้ายสลับฝั่ง แล้ววัดผลจากยอดขายหรือพฤติกรรมลูกค้า จะช่วยให้รู้ว่าฝั่งไหนเวิร์กกับแบรนด์ของคุณมากที่สุด
สิ่งสำคัญคือตำแหน่งของ ป้าย shelf talker ต้องไม่ถูกบดบัง และอยู่ในแนวตัดสายตา ไม่ใช่จมหายไปกับฉากหลัง
4. ชั้นล่างก็ใช้ได้ ถ้าวางเป็น
แม้ชั้นล่างจะไม่ใช่ตำแหน่งทอง แต่หากใช้ ป้าย shelf talker อย่างมีเทคนิค ก็สามารถดึงดูดสายตาได้เช่นกัน เช่น ใช้สีสด ฟอนต์ใหญ่ วัสดุสะท้อนแสง หรือวางเฉียงให้รับกับมุมการเดินเข้าร้าน
ควรใช้ข้อความสั้น ๆ เช่น “ลด 50%” หรือ “สินค้าขายดี” เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจทันทีโดยไม่ต้องก้มอ่านนาน และหากใส่ลูกศรชี้ขึ้นพร้อมไฮไลต์สินค้า ก็จะช่วยกระตุ้นการหยิบซื้อได้อีกขั้น
ชั้นล่างจึงไม่ใช่จุดที่ควรมองข้าม หากวาง shelf talker ให้สื่อสารเร็ว และใช้มุมให้เป็น จุดที่เคยมองข้ามอาจกลายเป็น ทำเลขายดี ได้เช่นกัน
ติดต่อ Euro Printing
Facebook: Euro printing
Instagram: Euro.printing
Line: @Europrinting
Call: 065-359-3959